วันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ปัญหาวัยรุ่นกับเพศสัมพันธ์

ปัญหาวัยรุ่นกับเพศสัมพันธ์
    อารมณ์ทางเพศที่เกิดขึ้นในช่วงการเข้าสู่วัยรุ่นเป็นพัฒนาการอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของร่างกายที่จะสืบทอดและดำรงไว้ซึ่งเผ่าพันธุ์ โดยมี สิ่งเร้าสำคัญใน 2 ลักษณะประกอบด้วย ลักษณะของปัจจัยที่เป็นสิ่งเร้าภายใน(intrinsic stimulus) และลักษณะของปัจจัยที่เป็นสิ่งเร้าภายนอก (extrinsic stimulus)
ลักษณะของปัจจัยที่เป็นสิ่งเร้าภายนอก
   ปัจจัยที่เป็นสิ่งเร้าภายนอก หมายถึง สภาพแวดล้อมภา
ยนอกต่างๆที่สามารถกระตุ้นผู้ที่รับรู้ให้เกิดอารมณ์ทางเพศขึ้น ซึ่งสิ่งเร้าเหล่านี้มีหลายรูปแบบ ได้แก่
1. สื่อรูปแบบต่างๆ
   ในปัจจุบันมีสื่อหลากหลายรูปแบบที่กระตุ้นให้วัยรุ่นเกิดอารมณ์ทางเพศ โดยเฉพาะสื่อทางเพศ เป็นสื่อที่นำเสนอภาพหรือข้อมูลที่ให้ความรู้เรื่องเพศ มีทั้งสื่อที่สร้างสรรค์และไม่สร้างสรรค์
สื่อที่สร้างสรรค์ คือ สื่อที่ให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องเพศ ได้แก่ การมีเพศสัมพันธ์ที่ถูกวิธี การป้องกันตนเองจากการตั้งครรภ์ เป็นต้น ส่วนสื่อที่ไม่สร้างสรรค์แบ่งออกได้เป็น 2 ระดับ คือ ระดับของสื่อทางเพศที่ห้ามมีการเผยแพร่ในสังคมไทยอย่างเด็ดขาด ส่วนระดับที่สอง เป็นสื่อทางเพศที่ต้องห้ามเนื่องจากเป็นผลมาจากศีลธรรมอันดีงามของสังคมไทยความหลากหลายของสื่อที่กล่าวมาข้างต้นนั้น วัยรุ่นบางคนก็ไม่สามารถแยกแยะสื่อที่สร้างสรรค์กับสื่อที่มาสร้างสรรค์ได้ จึงได้รับเอาข้อมูลเรื่องเพศมากจากสื่อทั้งสองประเภท สื่อที่ไม่สร้างสรรค์จึงมีการผลิตและเผยแพร่มากขึ้นทุกวัน ทั้งในรูปแบบหนังสือและวารสารต่างๆ สื่อที่อยู่ในรูปของภาพยนตร์ก็มี และที่สำคัญอย่างยิ่งคือ ปัจจุบัน ระบบอินเทอร์เน็ตได้ถูกนำมาใช้เป็นสื่อทางเพศอีกช่องทางหนึ่ง บางกรณีก้นำเสนอผ่านเว็บไซต์ บางกรณีก็นำเสนอในรูปแบบเกมออนไลน์ และจะเห็นได้ว่า ระบบนี้บางทีก็ขาดการดูแล และการจัดการที่ดี จึงทำให้มีการเผยแพร่ลุกลามอย่างรวดเร็ว นอกจากจะยั่วยุและกระตุ้นให้วัยรุ่นเกิดอารมณ์ทางเพศได้ง่ายและรวดเร็วขึ้นแล้ว ยังอาจนำไปสู่การมีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศอีกด้วยจากความสำคัญของสื่อในรูปแบบต่างๆที่กล่าวมา อาจกล่าวได้ว่า สื่อที่กล่าวมาจัดเป็นสิ่งเร้าภายนอกที่สำคัญ ซึ่งผู้เกี่ยวข้องตลอดจนวัยรุ่นต้องให้ความสำคัญในการระมัดระวังในการเลือกรับสื่อที่ถูกประเภทด้วย

2. สภาพทางสังคมและวัฒนธรรมที่เปลี่ยนไป
   ในปัจจุบันคงต้องยอมรับกันว่า สภาพทางสังคมและวัฒนธรรมไทยได้เปลี่ยนไป เนื่องจากมีการรับเอาวัฒนธรรมของชาติตะวันตกให้มามีบทบาทในการดำเนินชีวิตประจำวันมากขึ้น ทำให้วัยรุ่นไทยมีความกล้าแสดงออกมากขึ้น ทั้งทางด้านการแต่งกาย การคบเพื่อนต่างเพศ ซึ่งมีอิสระมากขึ้น นอกจากนี้ ปัจจุบันสภาพของครอบครัวไทยเปลี่ยนไป ผู้ปกครองมีเวลาใกล้ชิดกับบุตรหลานน้อยลง ซึ่งเป็นผลมาจากสภาพของภาวะทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังพบว่า ความมีอิสระของสื่อต่อการนำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเพศ สิ่งต่างๆเหล่านี้จัดได้ว่าเป็นสิ่งเร้าภายนอกที่สำคัญที่สามารถจะเร้าและกระตุ้นให้วัยรุ่นเกิดความต้องการทางเพศขึ้นได้ โดยเฉพาะหากขาดการดูแลและการควบคุมที่ถูกต้องเหมาะสม
3. ค่านิยมและประพฤติที่ไม่เหมาะสมในบางลักษณะของวัยรุ่น
   ควบคุมอารมณ์ผลจากสภาพทางสังคมและวัฒนธรรมทางสังคมไทยที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศที่เปลี่ยนไป สางผลให้วัยรุ่นไทยเกิดค่านิยมและมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในหลายลักษณะ เป็นต้นว่า ค่านิยมในเรื่องการแต่งกายตามสมัยนิยม (Fashion) ที่มากเกินไปของวัยรุ่น โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เช่น การสวมเสื้อผ้าที่รัดรูปทำให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้ง หรือการเปิดเผยสัดส่วนของร่างกายมากเกินไปของเพศหญิง ซึ่งการแสดงออกดังกล่าวอาจกระตุ้นและยั่วยุให้เพศชายเกิดความอารมณ์ทางเพศได้ นอกจากนี้ยังพบว่า วัยรุ่นมักจะมีค่านิยมเกี่ยวกับความต้องการในการแสดงออกโดยอิสระ เป็นต้นว่า การเที่ยวเตร่ในเวลากลางคืน การสัมผัสร่างกายของเพศตรงข้ามหรือการจับมือถือแขน กอดจูบกันในที่สาธารณะ การอยู่ลำพังสองต่อสอง หรือการไม่ให้ความสำคัญเรื่องการรักษาพรหมจรรย์ ฯลฯ ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ถือว่าเป็นปัจจัยภายนอกที่สำคัญมากๆเพราะถือว่าเป็นความคิดของวัยรุ่นที่เป็นวัยที่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ถ้าได้รับการเรียนรู้มาแบบผิดๆ และไม่สามารถควบคุมอารมณ์ทางเพศไว้ได้ก็อาจทำให้เกิดความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ของชีวิตเลยก็ได้ วัยรุ่นจึงควรตระหนักในการควบคุมอารมณ์ทางเพศให้อยู่ในสภาวะที่เหมาะสม และควรมีสติยั้งคิดอยู่ตลอดเวลาด้วย

โทษต่อร่างกาย

วิธีการป้องกัน
แนวทางการปฏิบัติเพื่อระงับอารมณ์ทางเพศ หมายถึง ความพยายามในการที่จะหลีกเลี่ยงต่อสิ่งเร้าภายนอกที่มากระตุ้นให้เกิดอารมณ์ทางเพศที่เพิ่มมากขึ้น
   1. หลีกเลี่ยงการดูหนังสือหรือภาพยนตร์หรือสื่อ Internet ที่มีภาพหรือข้อความที่แสดงออกทางเพศซึ่งเป็นการยั่วยุให้เกิดอารมณ์ทางเพศ
   2. หลีกเลี่ยงการปฏิบัติหรือทำตัวปล่อยวางให้ความสบายเกินไป เช่น การนอนเล่นๆโดยไม่หลับ การนั่งฝันกลางวันหรือนั่งจินตนาการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ การอยู่ในสภาพของบรรยากาศที่มีแสงสีที่ก่อหรือปลุกเร้าอารมณ์ทางเพศ
   3. เหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ก่อให้เกิดโอกาสการถูกสัมผัสในลักษณะต่างๆกับเพศตรงข้ามซึ่งการกระทำดังกล่าวมักก่อให้เกิดอารมณ์ทางเพศได้ เช่นการจับมือถือแขน [10%] การกอดจูบ [60%] การลูบคลำ [80%] การเล้าโลม [100%]
   4. หลีกเลี่ยงและรู้จักปฏิเสธเมื่อถูกชักชวนให้เที่ยวเตร่พักผ่อนในแนวทางกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ทางเพศ เช่น สถานที่ท่องเที่ยวกลางคืน การดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มมึนเมาต่างๆ ซึ่งสามารถนำพาไปสู่การเกิดอารมณ์ทางเพศได้
แนวทางการปฏิบัติเพื่อผ่อนคลายความต้องการทางเพศ
   การปฏิบัติเพื่อผ่อนคลายความต้องการทางเพศ ในที่นี้หมายถึง กานผ่อนคลายความเครียดทางอารมณ์ที่เกิดมาจากความต้องการทางเพศซึ่งเป็นผลมาจากสิ่งเร้าต่างๆ ด้วยวิธีการปฏิบัติที่เหมาะสมโดยไม่ส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่นและสุขภาพของผู้ปฏิบัติ
วิธีการปฏิบัติโดยทั่วไป อาจมี 2 ลักษณะ ประกอบด้วย วิธีการผ่อนคลายความต้องการทางเพศด้วยการเบี่ยงเบนทางอารมณ์ และวิธีการผ่อนคลายความต้องการทางเพศด้วยการบำบัดความใคร่ด้วยตนเอง

1. การผ่อนคลายความต้องการทางเพศด้วยการเบี่ยงเบนอารมณ์ทางเพศ
   การเบี่ยงเบนอารมณ์ทางเพศ หมายถึง การใช้แนวทางในการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆเพื่อหันเหความสนใจในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเพศ ลดพลังความต้องการทางเพศที่เกิดขึ้นในช่วงวัยดังกล่าวให้ลดลงการเบี่ยงเบนอารมณ์ทางเพศปฏิบัติได้หลายลักษณะ เช่น การออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาทุกวัน การเรียนหรือการทำงาน เข้าร่วมกิจกรรมนันทนาการ หรือร่วมในกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคมตามโอกาสที่เหมาะสม ฯลฯ โดยการปฏิบัติที่กล่าวมาจะช่วยให้มีความเพลิดเพลินและผ่อนคลายความตึงเครียดของอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้
2. การผ่อนคลายความต้องการทางเพศด้วยการบำบัดความใคร่ด้วยตนเอง
   การบำบัดความใคร่ด้วยตนเองหมายถึง การผ่อนคลายความต้องการทางเพศด้วยการจงใจกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกทางเพศในตนเองด้วยการกระตุ้นบนส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายก็ได้
การบำบัดความใคร่ด้วยตนเองนี้ นักจิตวิทยาส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่า ไม่มีผลร้ายแยงต่อสุขภาพ แต่การบำบัดด้วยวิธีการที่ถูกต้องเหมาะสมยังส่งผลให้สุขภาพทางกายและทางจิตของบุคคลดีขึ้นได้อีกด้วย แต่ก็ไม่ควรปฏิบัติบ่อยจนเกิดความหมกมุ่นในเรื่องดังกล่าว ซึ่งก่อให้เกิดเป็นลักษณะนิสัยที่อาจส่งผลลบต่อบุคลิกภาพและความเข้มแข็งทางด้านการ
ที่ดีได
   ๑. ปัญหากามโรค โสเภณีเป็นสาเหตุสำคัญในการแพร่กามโรค
   ๒. ปัญหาความเสื่อมทรามทางศีลธรรม เกิดการเอารัดเอาเปรียบ เกิดการล่อลวง
   ๓. ปัญหาทางด้านอาชญากรรม แหล่งการค้าประเวณีมักเป็นที่มั่วสุมของนักเลง อันธพาล นักเลง
สุรา นักการพนัน และนักท่องเที่ยวที่มาแสวงหาความสุขในอบายมุข
   ๔. ปัญหาโรคเอดส์ เป็นปัญหาที่เกิดในสังคมไทย เมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๑ และปัจจุบันได้เพิ่ม
ความรุนแรงมากขึ้น ผู้ที่เป็นโรคเอดส์ ถ้าไม่ตายด้วยโรคนี้ก็อาจฆ่าตัวตายดังจะอ่านพบได้ในหน้าหนังสือพิมพ์
   ๕. ปัญหาเด็กเกิดจากโสเภณี เด็กที่เกิดจากโสเภณีย่อมมีปมด้อย เพราะไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อ และแม่ ก็มีอาชีพที่สังคมรังเกียจ

ที่มา http://www.thaigoodview.com/library/contest2551/health04/13/2/html/html4.htm

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น